พีระมิดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้แก่
พีระมิดเห่งเมืองกีซ่า (เมืองกีเซห์) ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมศพของกษัตริย์คีออปส์(CHEOPS)
หรือ คูฟู ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้นเองเมื่อก่อนคริสตกาลประมาณ
25,800 ปี นับอายุจนถึงปัจจุบันก็กว่า 4,500 ปี
ถือเป็นพีระมิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่กลางทะเลทราย
พีระมิดแห่งนี้เดิมสูง 481.4 ฟุต แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 450 ฟุต ฐานกว้าง 768 ฟุต
ใช้หินทรายตัดเป็นแท่งรูปสามเหลี่ยมหนักประมาณก้อนละ 2 ตันครึ่ง บางก้อนหนักถึง 16
ตัน โดยการนำเอามาซ้อนกันขึ้นไปเป็นทรงกรวย
เชื่อกันว่าพีระมิดองค์นี้จะทนแดดทนฝนอยู่ได้อีกนานกว่า 5,000 ปี
และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของยุคโบราณสิ่งเดียวเท่านั้นที่มีอายุยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน
พีระมิดคาเฟร เป็น1ใน3ของหมู่พีระมิดแห่งกีซ่าถูกสร้างขึ้นโดย
ฟาโรห์คาเฟร ผู้เป็นราชโอรสของ ฟาโรห์คูฟู
ซึ่งได้สร้างไว้เคียงข้างกับพีระมิดแห่งกีซ่าซึ่งเป็นพีระมิดของบิดาตน
โดยสร้างสำเร็จและมีขนาดใกล้เคียงกับพีระมิดแห่งกีซ่าที่สุด
เมื่อเทียบจากในหมู่พีระมิดแห่งกีซ่า เนื่องจากพีระมิดคาเฟร สร้างในที่ที่มีพื้นหินสูงกว่าและตั้งอยู่ตรงกลาง
จึงทำให้เวลามองด้วยตาเปล่าจะทำให้เห็นพีระมิดคาเฟรนั้นใหญ่กว่าพีระมิดแห่งกีซ่า
พีระมิดเมนคูเร
เป็นพีระมิดที่สร้างขึ้นโดย ฟาโรห์เมนคูเร
ซึ่งเป็นราชโอสรของ ฟาโรห์คาเฟร และเป็นพระนัดดาของ ฟาโรห์คูฟู
ผู้สร้างพีระมิดแห่งกีซ่า
และยังเป็นพีระมิดที่มีความเก่าแก่น้อยที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกีซ่า ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับพีระมิดเมนคูเรยังมีหมู่พีระมิดของราชินีทั้ง
3 เป็นที่ไว้พระศพของเหล่าราชินีทั้ง 3
องค์ของฟาโรห์เมนคูเรและมักจะพบภาพถ่ายพีระมิดเมนคูเรที่มีหมู่พีระมิดราชินีทั้ง 3 ติดมาด้วยเสมอเหมือนกับที่พีระมิดคาเฟรอยู่คู่กับมหาสฟิงซ์
อีกท่านหนึ่งคือเวอร์น คาเมรอน นักวิจัยชาวคาลิฟอร์เนีย ทำการทดลองกับเนื้อหมูกับพีระมิดจำลอง โดยทดลองกับเนื้อหมู ประมาณ 2 ออนซ์ (56.6 กรัม)และไขมันดิบ อีก 1 ออนซ์ (28.3 กรัม) และวางไว้ในพีระมิดจำลองอีกแล้วและที่ที่จะทำให้มันเน่าเปื่อยได้เร็วที่สุด เขานำพีระมิดจำลองนี้ ไปแว้ในห้องน้ำครับ ต่อมาเขาก็นำไปไว้ในห้องที่มีอากาศร้อน และห้องที่มีไอน้ำมากเพื่อให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
พลังพีระมิด แห่งอียิปต์ เซอร์ ดับบลิว ซีแมนส์
โครงสร้างของมหาพีระมิด
ที่น่าทึ่งอย่างหนึ่ง
คือ ก้อนหินที่วางเรียงรายต่อกันขึ้นเป็นแท่งหินแกรนิตหินปูนขนาดยักษ์นั้น
มีรอยเชื่อมกัน ไว้อย่างถูกต้องมีขนาดกว้างไม่เกิน 1/50 นิ้วเลย
ความยาวรอบฐานพีระมิด
เมื่อ หารด้วย 2
เท่าของความสูงจะฐานถึงยอดจะมีค่าเท่า พายของวงกลม (π) ซึ่งเท่ากับ 3.144
ความยาวของเส้นรอบฐานพีระมิด
เมื่อนับเป็นคิวบิทวันได้ 365.24
เท่ากับ 1 ปีปฏิทินโลก ยังไม่จบ 2
เท่าของความสูงพีระมิด เมื่อคูณ ด้วย เลข 100,000
จะได้ค่าใกล้เคียงกับความยาวระยะห่างระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ คือ 93 ล้านไมล์โดยประมาณ
และน้ำหนักของพีระมิดเมื่อคูณด้วย
1,000,000,000,000,000 จะได้ค่าใกล้เคียงกับน้ำหนักของโลกเราโดยประมาณ
ส่วนห้องเก็บพระศพ
พระราชานั้นสร้างเป็นแบบเพดานเรียบประกอบด้วยแผ่นหินขนาดใหญ่ 9 ก้อนมีน้ำหนักรวมกันประมาณ 400 ตัน
วางซ้อนกันเป็นชั้น ๆ แบ่งออกเป็นช่องได้ 5 ช่อง
ความมหัศจรรย์จากการทดลอง
พลังพีระมิด
ความมหัศจรรย์จากการทดลอง
พลังพีระมิด ความมหัศจรรย์จากการทดลอง กับพลังพีระมิดในสหรัฐมีการวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะครับจนกระทั่งมีการคั้งศูนย์วิจัยเกี่ยวกับพีระมิดขึ้นดร.
โบริส เวอร์น (Dr. Boris Verm) ผู้อำนวยการโครงการวิจัย
ได้ทำการทดลองโดยใช้พีระมิดจำลอง ความสูงเพียง 10 นิ้ว ขึ้นแรก
เขาใช้ไข่ดิบวางไว้ในพีระมิดจำลอง และหลังจากนั้นก็คือ
ไข่ได้เกิดการแข็งตัวและเหือดแห้งภายในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ เท่านั้นเอง ครับ
และปรากฏว่าเชื้อราต่าง ๆ
ที่มักจะเกิดตามเปลือกไข่ไม่เติบโตขึ้นเลยและหากนำไปไว้นอกปิรามิด
แล้วเชื้อราจะเติบโตอย่างรวดเร็วครับการทดลองอันนี้ ได้ทดลองซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง
และใช้วัสดุอื่น ๆ เช่น ดอกไม้ผลไม้ ผัก และสัตว์ต่าง ๆ เช่นปลา และแมลงต่าง ๆ
อีกท่านหนึ่งคือเวอร์น คาเมรอน นักวิจัยชาวคาลิฟอร์เนีย ทำการทดลองกับเนื้อหมูกับพีระมิดจำลอง โดยทดลองกับเนื้อหมู ประมาณ 2 ออนซ์ (56.6 กรัม)และไขมันดิบ อีก 1 ออนซ์ (28.3 กรัม) และวางไว้ในพีระมิดจำลองอีกแล้วและที่ที่จะทำให้มันเน่าเปื่อยได้เร็วที่สุด เขานำพีระมิดจำลองนี้ ไปแว้ในห้องน้ำครับ ต่อมาเขาก็นำไปไว้ในห้องที่มีอากาศร้อน และห้องที่มีไอน้ำมากเพื่อให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
ในการเฝ้าดู แล้ว
เขาสังเกต ว่าวันที่ 3 จะมีกลิ่นเหม็น จากเนื้อหมู คล้าย ๆ
กับจะมีการเน่าเปื่อยเกิดขึ้น แต่พอ 6 วัน กลิ่นนั้น ก็หายไป และเนื้อหมู
แห่งโดยไม่มีการเน่าเปื่อยเลย ครับเป็นเวลาหลายเดือน เนื้อหมูก็ไม่เน่าเปื่อย
นำสามารถยังนำมาทานได้อีก
คาเมรอนยังได้ทดลองกับแตงโมอีก
ก็วางไว้ในพีระมิดจำลองเช่นเดิมไว้ในห้องน้ำอีกครั้งครับ จากนั้นเพียง 2-3 วัน
ปรากฏว่า แตงโม จะเหือดแห้งแต่ยังสามารถทานได้และไม่เน่าเปื่อยครับ
นอกจากนั้นเขาก็ยังทดลองกับ น้ำนมหรือของเหลวอื่น ๆ อีกมากมายครับ
เขาพยายามค้นหาสาเหตุเขาจึงได้ประดิษฐ์
เครื่องวัดแสงรังสี (Aurameter) ขึ้น
ใช้สำหรับวัดรังสีสนามพลังของวัตถุ เขากล่าวว่า พลังงานที่แผ่ขยายจากยอดพีระมิด
จำลองอันเล็กๆ มีลักษณะคล้ายกับโครงสร้างของหินชั้นบนของพีระมิดซึ่งมีสนามพลังแผ่กระจายลงมาถึง
พลังพีระมิด แห่งอียิปต์ เซอร์ ดับบลิว ซีแมนส์
อีกหนึ่งความสามารถของพีระมิดในการแสดงปฏิกิริยาเหมือนเครื่องสะสมไฟฟ้าสถิตครับเซอร์
ดับบลิว ซีแมนส์นักประดิษฐ์ค้นคว้า ชาวอังกฤษ เขาเคยไปสัมผัสกับความลึกลับของมหาพีระมิดในอียิปต์มา
ในขณะที่เขายืนอยู่ภายใน ห้องเก็บศพอียิปต์ตรงกับยอดของพีระมิด
เขาพบว่าเมื่อใดที่เขาชูมือทั้งสองข้างขึ้นและกางนิ้วออกโสตประสาทของเขาได้ยินเสียงกังวาลเบา
ๆ จากเบื้องบน ของพีระมิดแต่ที่น่าตกใจอีกแล้วเขายกมือขึ้นแล้วใช้นิ้วชี้ตรงไปยังยอดของพีระมิดเขามีความรู้สึกคล้าย
ๆกับ ถูกเข็มจิ้มที่ปลายนิ้ว ครับ ต่อมา เขาก็ ยกขวดไวน์ ที่ติดตั้งดื่มแก้กระหาย
ก็เกิดอาการกระตุกบริเวณปากขวด ขณะแตะริมฝีปากและเขาใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ที่เปียกชื้นพันรอบ
ๆ ขวด ปรากฏว่ามีการอาการกระตุก
เกิดจากไฟฟ้าและขวดไวน์นั้นก็กลายเป็นเครื่องสะสมไฟฟ้าที่เรียกว่า ลีเดน จาร์ (Leyden
Jar)
ลีเดน จาร์
เป็นเครื่องทดลองสะสมไฟฟ้ายุคแรกที่ประกอบด้วยขวดแก้วมีแผ่นดีบุกไว้ทั้งภายในและภายนอกแผ่นดีบุกที่อยู่ข้างในติดกับแท่งโลหะ
มีปลายเป็นปุ่มโลหะ
ความลึกลับของพลังในมหาพีระมิดยังได้รับการค้นพบกันอีกแม้แต่ผู้ที่ไม่มีความสันทัดอะไรทั้งสิ้นในเรื่องวิทยาศาสตร์และไม่เคยแม้แต่จะไปเยือนอียิปต์เพื่อมองมหาพีระมิดนี้ด้วยตนเองเสียด้วยซ้ำมีคนหลายคนที่อ้างว่าพวกตนได้ใช้วัสดุต่างๆ
เช่นกระดาษแข็ง พลาสติกหรือแม้แต่แผ่นไม้อัดมาสร้างจำลองส่วนให้เท่ากับสัดส่วนของมหาพีระมิดแห่งนี้และสามารถ
ลับใบมีดโกนที่เก็บไว้ภายในให้คมกริบอย่างเดิมแม้ว่าจะใช้มันไปมากมายหลายครั้งก่อนแล้วก็ตามนอกจากนั้นภายในพีระมิดย่อส่วนของพวกตนนี้ยังเป็นที่ที่สามารถเก็บอาหารสดไว้ได้นานกว่าปกติหากใครเข้าไปนั่งอยู่ข้างในแล้วก็จะรู้สึกว่าอารมณ์สงบเยือกเย็นอย่างประหลาด
และเข้าสมาธิได้ง่ายด้วย
อีกทั้งยังช่วยให้สามารถมองเห็นความเป็นไปของตนเองในอนาคตได้
แม้จะไม่มีใครเข้าใจการทำงานของตัวพีระมิดแต่คนนับพันๆคนทั่วโลกพร้อมจะสบถสาบานได้ว่าตนลองทำแล้วมันเกิดขึ้นได้จริง
Sphinx สฟิงค์
คือสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะ
ลำตัวเป็นสิ่งโตหมอบเพศผู้แสดงถึงอำนาจมีทั้งศีรษะมนุษย์ และหัวสัตว์
ถ้าเป็นใบหน้าคนมักจะเป็นพระพักต์ของเจ้าของสุสานนั้นๆ แสดงถึงสติปัญญา
สฟิงซ์สำหรับหน้าที่ทั่วไปมีหน้าที่เฝ้าวิหารและสุสานกษัตริย์
สฟิงซ์ ที่บริเวณ
ที่ราบสูงกีซ่าเพียงตัวเดียวนี้ มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยาว 73 เมตร สูง 20
เมตรแกะสลักจากหินปูน เพียงก้อนเดียว ใช้พระพักต์ของเจ้าของสุสานคเฟรเป็นแม่แบบ
ซึ่งใบหน้าของเจ้าของสฟิงซ์ตัวนี้ช่างเต็มไปด้วยความรู้สึกจนได้รับสมญาว่า
"โมนาลิซ่าในรูปของศิลา"นอกจากนี้ยังเป็นประติมากรรมชั้นยอดเยี่ยมที่สุดของอียิปต์
โบราณก็ว่าได้
ในสมัยธุตโมสที่ 4
ตอนนั้นสฟิงซ์ 1 พันปี ทรายกลบทีหลังคอ เหลือส่วนหัว 5 เมตร ที่โผล่หัวพ้นทราย
เฉพาะใบหน้าความยาว 4.17 เมตรเทพฮอรัสไปเข้าฝันพระองค์
ให้ช่วยทำความสะอาดเจ้าสฟิงซ์ยักษ์จึงมีการเคลียร์ทรายเป็นครั้งในประวัติศาสตร์ หลัง
จากนั้นมีการทำอีก 3-4 ครั้งฐาน ลงมาเป็นแนวตั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น